The 2017 Women's March: A Tide of Pink Hats Against Misogyny and Inequality

ประวัติศาสตร์มักจารึกความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้วยเหตุการณ์ที่คนทั้งโลกจดจำได้ วันที่ 21 มกราคม 2017 ก็เป็นหนึ่งในวันที่ฝากรอยไว้ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลกด้วยการชุมนุมครั้งใหญ่ “Women’s March” ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้

เหตุการณ์นี้เป็นการรวมตัวของผู้หญิงและชายจำนวนนับล้านคนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองสำคัญทั่วประเทศสหรัฐฯ เพื่อแสดงออกต่อความไม่พอใจและคัดค้านนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายที่ถูกมองว่าเป็นการเหยียดเพศ การเลือกปฏิบัติ และการทำลายสิทธิสตรี

ผู้เข้าร่วม Women’s March มีหลากหลายกลุ่ม: นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน, Feminist, นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม, สมาชิก LGBTQ+, ผู้ที่ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัว และคนทั่วไปที่ต้องการสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

สาเหตุของการชุมนุม

หลายปัจจัยนำไปสู่การเกิดขึ้นของ Women’s March:

• คำพูดเชิงดูถูกเพศหญิง: การแสดงออกของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ดูถูกผู้หญิงในอดีตและระหว่างการหาเสียง ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนสิทธิสตรีรู้สึกหวั่นวิตก
• นโยบายต่อต้านการทำแท้ง: ข้อเสนอของรัฐบาลทรัมป์ที่จะจำกัดสิทธิในการทำแท้งสร้างความโกรธแค้นจากกลุ่มสนับสนุนสิทธิทางการเจริญพันธุ์
• ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ: การจ้างงาน, สิทธิ, และการมีส่วนร่วมในสังคมที่ยังคงไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิง ทำให้เกิดความตระหนักและเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง

ผลกระทบของ Women’s March

Women’s March ไม่เพียงแต่เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่เท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางในแง่ต่าง ๆ:

นอกจากนี้ Women’s March ยังจุดประกายให้เกิดการชุมนุมของผู้หญิงที่ต่อต้านอำนาจชาย chauvinist ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและเอเชีย

Kendrick Lamar: The Voice of a Generation

Women’s March เป็นตัวอย่างของพลังของการรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน

Kendrick Lamar, แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันชื่อดัง, ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากการใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือในการสะท้อนปัญหาทางสังคมและการเมืองในสหรัฐอเมริกา Lamar เกิดใน Compton, California ซึ่งเป็นย่านที่ยากจนและมีอาชญากรรมสูง

เพลงของ Lamar มักจะวิพากษ์ระบบทุนนิยม, ความรุนแรงจากตำรวจ, และความอยุติธรรมเชื้อชาติ โดยใช้คำพูดที่ทรงพลังและสำเนียงที่獨特. “To Pimp a Butterfly” (2015) เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง ซึ่งสำรวจประเด็นของเชื้อชาติ, การเมือง และความเป็นตัวของตัวเอง

Lamar ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัล Grammy สาขา Album of the Year สำหรับ “DAMN.” (2017)

เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคปัจจุบันและเป็นตัวอย่างของการใช้ดนตรีเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคม