การปฏิวัติฝรั่งเศส: 1789-1799 และ ความคิดเห็นของฌาคส์ โอราซ์ ฟิลิปป์ โบนาปาร์ต

คำว่า “การปฏิวัติฝรั่งเศส” มักจะถูกจดจำด้วยภาพความโกลาหล แนวคิดเสรีภาพ อุดมการณ์ egalitarianism และการล้มล้างระบอบกษัตริย์อันเก่าแก่ แต่ในความเป็นจริง การปฏิวัติฝรั่งเศสมีขั้นตอนและเหตุการณ์ที่ซับซ้อนมากมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคม ฝรั่งเศส และโลกอย่างลึกซึ้ง

หนึ่งในบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติฝรั่งเศส (แม้ว่าเขาจะไม่ได้เกิดในช่วงเวลานั้นก็ตาม) คือ ฌาคส์ โอราซ์ ฟิลิปป์ โบนาปาร์ต หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “นโปเลียน โบนาปาร์ต”

ฌาคส์ โอราซ์ ฟิลิปป์ โบนาปาร์ต เกิดในครอบครัวขุนนางจากเกาะคอร์ซิกา เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารที่มีความสามารถและโดดเด่นในช่วงสงครามการปฏิวัติฝรั่งเศส

ด้วยความฉลาดเฉลียว, ความกล้าหาญ และความสามารถในการวางแผนทางทหารที่เหนือชั้น โบนาปาร์ตได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองผ่านชัยชนะหลายครั้ง รวมถึงการยึดอำนาจในอิตาลี (1796-1797)

จากนั้น ในปี 1799 โบนาปาร์ตได้กลับมาฝรั่งเศสและทำการรัฐประหารซึ่งนำไปสู่การสถาปนา “สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สอง”

นโปเลียน: จากนายพลสู่จักรพรรดิ

หลังจากการรัฐประหาร โบนาปาร์ตได้ดำรงตำแหน่งเป็น “ฟิร์ส คอนซู” (First Consul) ซึ่งถือเป็นผู้นำสูงสุดของฝรั่งเศส

ด้วยความสามารถในการบริหารประเทศ, ปฏิรูปกฎหมาย และการขยายอาณาเขต โบนาปาร์ตได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างมาก จนในปี 1804 เขาได้สถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิของฝรั่งเศส

ระหว่างที่ครองอำนาจ นโปเลียนได้นำฝรั่งเศสเข้าสู่ยุคแห่งความยิ่งใหญ่และการขยายอาณาเขตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

เขาได้รุกรานและยึดครองดินแดนจำนวนมากในทวีปยุโรป รวมถึงสเปน, ออสเตรีย, อิตาลี และเยอรมนี

กองทัพของนโปเลียน: เครื่องจักรสงครามที่ทรงพลัง

ความสำเร็จของนโปเลียนส่วนหนึ่งมาจากกองทัพฝรั่งเศสที่เข้มแข็งและมีระเบียบ

กองทัพของนโปเลียนถูกจัดระเบียบอย่างเป็นระบบ มีการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด และได้รับอาวุธที่ดีที่สุดในยุคนั้น

นอกจากนี้ นโปเลียนยังเป็นผู้บัญชาการที่มีความสามารถในการวางแผนและใช้กลยุทธ์ทางทหารได้อย่างชาญฉลาด

เขาสามารถ mobilise กองกำลังของตนอย่างรวดเร็ว, สร้างข้อได้เปรียบในสนามรบ และทำการโจมตีที่แม่นยำ

การล่มสลายของจักรวรรดิ:

อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิฝรั่งเศสภายใต้การนำของนโปเลียนไม่ใช่ไปตลอดกาล

หลังจากสงครามจำนวนมาก นโปเลียนถูกบีบให้สละราชสมบัติในปี 1814

และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พยายามกลับมาขึ้นสู่อำนาจอีกครั้ง (Hundred Days War) ซึ่งนำไปสู่การปราบปรามอย่างเด็ดขาดจากกองทัพพันธมิตรของยุโรป

นโปเลียนถูกเนรelyn ไปยังเกาะเซนต์เฮเลน่าในมหาสมุทรแอตแลนติก และเสียชีวิตที่นั่นในปี 1821

มรดกของนโปเลียน:

แม้ว่าจักรวรรดิของนโปเลียนจะล่มสลายลง แต่ผลกระทบของเขาต่อประวัติศาสตร์ยุโรปก็ยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้

เขาได้นำมาซึ่งการปฏิรูปทางกฎหมาย, การศึกษาระบบใหม่, และการขยายอาณาเขตของฝรั่งเศส

นอกจากนี้ นโปเลียนยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้นำและนักปฏิวัติจำนวนมากในยุโรป

** ตารางเปรียบเทียบ: ก่อนและหลังนโปเลียน

** สรุป:**

ฌาคส์ โอราซ์ ฟิลิปป์ โบนาปาร์ต เป็นบุคคลสำคัญผู้หนึ่งในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส และโลก

ความสามารถทางทหาร, ความฉลาด, และความทะเยอทะยานของเขาได้นำไปสู่การสถาปนาจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

แม้ว่าจักรวรรดิของเขานั้นจะไม่คงอยู่ตลอดไป แต่ผลกระทบและมรดกของนโปเลียนก็ยังคงมีอิทธิพลต่อโลกจนถึงทุกวันนี้